หากคุณมีอาการปวดเข่าเรื้อรัง… อย่าชะล่าใจ เพราะอาจเป็นมากกว่าการใช้งานหนักเกินไป!
หลายคนอาจเคยมีอาการปวดเข่าจากการเดิน วิ่ง หรือยกของหนัก แต่หากคุณเริ่มมีอาการปวดเข่าถี่ขึ้น ปวดเข่าเรื้อรัง หรือรู้สึกเข่าฝืด บวม มีเสียงดังในข้อ หรือรู้สึกล้าเมื่อต้องยืนหรือขึ้น–ลงบันได อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไป เพราะอาจเป็น “สัญญาณเตือน” ของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับข้อต่อ กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อรอบเข่า หรือแม้แต่แนวโครงสร้างของร่างกายที่ไม่สมดุล
สาเหตุหลักของอาการปวดเข่า
- การใช้งานเข่าหนักเกินไป หรือท่าทางไม่เหมาะสม
การยืน เดิน วิ่ง หรือยกของหนักเป็นเวลานาน โดยไม่พัก หรือใช้งานเข่าซ้ำ ๆ ในท่าทางเดิม อาจทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบเข่าถูกใช้งานเกินขีดจำกัด นำไปสู่อาการปวด อักเสบ หรือเข่าล้า - ข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis)
พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป เกิดจากกระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่าสึกหรอ ทำให้เกิดการเสียดสีของข้อ ส่งผลให้ปวด เข่าบวม หรือฝืดตึงตอนเช้า - เอ็นหรือหมอนรองเข่าฉีกขาด (Ligament or Meniscus Injury)
มักเกิดจากการบาดเจ็บ เช่น การหกล้ม บิดเข่า หรือเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว อาจทำให้รู้สึกปวดทันที เดินลำบาก หรือมีเสียงดังในข้อเข่า - โครงสร้างร่างกายไม่สมดุล
การเดินผิดท่า ข้อเท้าหรือสะโพกไม่สมดุล การใส่รองเท้าไม่เหมาะสม หรือแนวกระดูกสันหลังผิดปกติ ล้วนสามารถส่งผลต่อการลงน้ำหนักที่หัวเข่าและทำให้เกิดอาการปวดสะสมได้ในระยะยาว
อาการปวดเข่าแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์?
-ปวดเข่าเรื้อรังนานเกิน โดยไม่ดีขึ้นแม้พักหรือใช้ยาทา/ยาแก้ปวด
-ปวดเข่าร่วมกับอาการอื่น เช่น เข่าบวม แดง ร้อน
-ปวดเข่าเฉียบพลันหลังจากหกล้ม บิดเข่า หรือได้รับแรงกระแทก
-ปวดเข่าเมื่อขึ้น–ลงบันได หรือนั่งยอง ๆ แล้วรู้สึกไม่มั่นคงหรือเข่าทรุด
-มีอาการฝืดตึงช่วงเช้า หรือเข่าติดจนลุกนั่งไม่สะดวก
-ปวดเข่าจนรบกวนการทำกิจวัตรประจำวัน
วิธีการรักษาอาการปวดเข่าที่ P.S. Center
ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทางร่วมกับนักกายภาพบำบัด เพื่อการฟื้นฟูที่ครอบคลุมทั้ง “ต้นเหตุและปลายเหตุ” ของอาการปวดเข่า
อาการปวดเข่า ไม่ใช่แค่ผลจากการใช้งานหนักหรืออายุมากขึ้น เพราะหากปล่อยไว้นานโดยไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง อาจพัฒนาเป็นปัญหาเรื้อรัง เช่น ข้อเข่าเสื่อม เส้นเอ็นอักเสบ หมอนรองข้อเข่าฉีก หรือความผิดปกติของกล้ามเนื้อรอบเข่าที่ส่งผลต่อการเดินและเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน
ที่ P.S. Center เราใช้แนวทางการรักษาแบบผสมผสาน โดยความร่วมมือระหว่าง ทีมแพทย์เฉพาะทางด้านการระงับปวด และ ทีมนักกายภาพบำบัดเฉพาะทาง เพื่อวิเคราะห์สาเหตุของอาการให้ตรงจุด ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งข้อเข่า กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง พร้อมออกแบบ แผนการรักษาเฉพาะบุคคล ที่ตอบโจทย์อาการและพฤติกรรมการใช้งานของผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อให้กลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
ขั้นตอนการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านการรักษาอาการปวดเข่า
เพื่อให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและตรงจุดมากที่สุด ที่ P.S. Center เราให้ความสำคัญกับ “การวินิจฉัย” ในทุกขั้นตอนอย่างละเอียด โดยทีมแพทย์เฉพาะทางจะดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยกระบวนการดังนี้
1. ซักประวัติอาการอย่างละเอียด (โดยแพทย์ทุกเคส)
แพทย์จะสอบถามข้อมูลสำคัญ เช่น
– ลักษณะของอาการปวด
– ระยะเวลาและความถี่
– สิ่งกระตุ้นหรือพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง
– อาการร่วมอื่น ๆ เช่น ข้อบวม ร้อน แดง เข่าฝืดตอนเช้า หรือเสียงดัง “กร๊อบแกร๊บ” เวลาขยับ เป็นต้น
*ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์เข้าใจภาพรวมของปัญหา และเริ่มต้นวางแผนการวินิจฉัยที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
2. ตรวจร่างกายเฉพาะทาง
ขั้นตอนต่อมาคือการตรวจประเมินร่างกายอย่างละเอียด โดยเฉพาะกล้ามเนื้อและระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
– ตรวจคลำรอบข้อเข่าเพื่อตรวจหาจุดกดเจ็บ บวม หรือการสะสมน้ำในข้อ
– ประเมินการเคลื่อนไหวของข้อเข่าทั้งงอและเหยียด ว่ามีข้อจำกัดหรืออาการเจ็บขณะเคลื่อนไหวหรือไม่
–ทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า เช่น กล้ามเนื้อต้นขา (Quadriceps) และหลังขา (Hamstring)
-ตรวจเสถียรภาพของเอ็นรอบเข่า เช่น เอ็นไขว้หน้า (ACL), เอ็นด้านใน–นอกของข้อเข่า
–ประเมินความเกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น การร้าวลงขา หรืออาการชา–อ่อนแรง
*หากจำเป็น อาจมีการส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น, X-ray เพื่อตรวจหาความเสียหายของกระดูก กระดูกอ่อน หมอนรองข้อ หรือเส้นเอ็นอย่างชัดเจน
3. วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
เมื่อประเมินอาการครบถ้วนแล้ว แพทย์จะวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดร่วมกัน เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาที่ตรงกับสาเหตุของอาการมากที่สุด โดยเน้นการรักษาแบบบูรณาการร่วมกับทีมนักกายภาพบำบัด เพื่อให้ได้ผลทั้งการควบคุมอาการเฉียบพลัน และฟื้นฟูโครงสร้างในระยะยาว
แนวทางการรักษาอาการปวดเข่า ที่ครอบคลุมทั้ง “ต้นเหตุและปลายเหตุ”
มุ่งควบคุมอาการปวดและการอักเสบโดยไม่ต้องผ่าตัด
1.ฉีดยาลดการอักเสบ
– เหมาะสำหรับผู้
2.PRP (Platelet-Rich Plasma)
– ใช้เกล็ดเลือดเข้มข้นจากร่างกายเพื่อฟื้นฟู
– เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดจากภาวะข้อเข่าเสื่อม
3.RFA (Radiofrequency Ablation)
– เทคนิคใช้คลื่นวิทยุเพื่อหยุดการส่งสัญญาณปวดจากเส้นประสาทที่ข้อเข่า
– เหมาะกับผู้ข้อเข่าเสื่อมที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป และยังไม่การผ่าตัด
*ทั้งนี้ แพทย์จะพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละวิธีตามอาการของผู้ป่วยแต่ละราย บางรายอาจไม่จำเป็นต้องฉีดยาหรือทำหัตถการทันที
4.การฟื้นฟูโดยนักกายภาพบำบัด
ที่ P.S. Center เราเชื่อว่าการรักษาอาการปวดเข่าไม่ใช่แค่ลดอาการปวดชั่วคราว แต่ต้องเข้าใจถึง “ต้นเหตุที่แท้จริง” ของอาการ
นักกายภาพบำบัดของเราจะทำการประเมินอย่างละเอียดทั้งด้านกล้ามเนื้อ ข้อต่อ ระบบประสาท รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อ:
- วิเคราะห์สาเหตุเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อที่ไม่สมดุล ข้อเสื่อม เส้นเอ็นอักเสบ หรือท่าทางที่ผิด
- ออกแบบแผนการฟื้นฟูเฉพาะบุคคล (Individualized Rehab Program) ที่ตอบโจทย์ทั้งอาการและการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
- แนะนำการปรับพฤติกรรมที่ช่วยป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ เช่น ท่าทางในการเดิน–ยืน การลดแรงกระแทกขณะออกกำลังกาย หรือการเลือกกิจกรรมที่ปลอดภัยกับข้อเข่า
วิธีการรักษาทางกายภาพบำบัด
- อัลตราซาวด์บำบัด (Ultrasound Therapy)
ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงกระตุ้นความร้อนลึกในเนื้อเยื่อรอบข้อเข่า
- ลดอาการตึงและอักเสบของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น เช่น เอ็นสะบ้า หมอนรองเข่า
- กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวเร็วขึ้น
- การกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical Stimulation)
ส่งกระแสไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อรอบเข่าเพื่อคลายความตึง บรรเทาอาการปวด และลดการอักเสบ
- ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการใช้งานผิดหรือพักใช้งานนาน
- ใช้ร่วมกับโปรแกรมฝึกกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- การอัลตราซาวด์ร่วมกับการกระตุ้นไฟฟ้า (Combined Ultrasound & Electrical Stimulation)
ผสานคลื่นเสียงและกระแสไฟฟ้าเพื่อลดอาการปวดเรื้อรัง ลดการอักเสบ กระตุ้นการไหลเวียนเลือดในกล้ามเนื้อ รวมถึงการกระตุ้นและคลายความตึงของกล้ามเนื้อจากการเคลื่อนไหวผิดท่าหรือกล้ามเนื้อไม่สมดุล - การรักษาด้วยมือ (Manual Therapy)
เทคนิคที่ใช้มือในการขยับหรือคลายกล้ามเนื้อ–ข้อต่อ เพื่อบรรเทาอาการปวด เพิ่มการเคลื่อนไหว และฟื้นฟูสมดุลข้อเข่าอย่างตรงจุด เหมาะกับผู้ที่มีเข่าฝืด ขยับยาก ปวดเรื้อรัง หรือฟื้นตัวหลังบาดเจ็บ
- การขยับข้อต่อ (Joint Mobilization) : ช่วยคลายข้อเข่าที่ฝืดหรือติดขัด เพิ่มช่วงการเคลื่อนไหว และกระตุ้นการไหลเวียนในข้อ
- การกดจุดคลายกล้ามเนื้อ (Trigger Point Release) : กดจุดตึงในกล้ามเนื้อ ช่วยลดปวดเฉพาะจุด คลายกล้ามเนื้อที่ตึงเรื้อรังจากการใช้งานหนัก
- การคลายพังผืด (Myofascial Release) : นวดคลายเนื้อเยื่อพังผืดที่ยึดรั้งข้อเข่า
การรักษาด้วยมือช่วยเตรียมข้อเข่าให้พร้อมก่อนเริ่มการฝึกกล้ามเนื้อ และช่วยลดอาการปวดเฉพาะจุดได้ดีมาก
- การยืดกล้ามเนื้อ (Stretching Exercise)
ยืดกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าที่ตึงค้าง คืนความยืดหยุ่น และลดแรงดึงบนข้อเข่า การยืดที่ถูกต้องและต่อเนื่องจะลดความเสี่ยงเข่าปวดซ้ำในอนาคต - โปรแกรมการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล (Individual Exercise Program)
ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคลเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างข้อเข่าอย่างครบถ้วน เพื่อช่วยลดอาการปวดและป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- เสริมความแข็งแรง (Strengthen): เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า ช่วยรองรับน้ำหนักและลดแรงกระแทก
- เพิ่มความมั่นคง (Stability): พัฒนาการควบคุมข้อเข่า ลดบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวผิด
- ปรับสมดุลกล้ามเนื้อ (Balance): ปรับสมดุลกล้ามเนื้อ เพื่อให้ข้อเข่าทำงานได้อย่างเหมาะสม
- ฝึกการทำงานของข้อเข่า (Function): ฝึกการทรงตัว การเคลื่อนไหว และความยืดหยุ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานข้อเข่าในชีวิตประจำวัน
- การรักษาด้วยความร้อนหรือความเย็น (Thermal Therapy)
ใช้การประคบอุณหภูมิอย่างเหมาะสมกับระยะอาการ เพื่อช่วยลดการอักเสบหรือกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ความเย็น (Cold Therapy): เหมาะกับอาการปวด บวม แดง ร้อน หรืออักเสบเฉียบพลัน เช่น หลังออกกำลังกายหนัก หรือล้มแล้วข้อเข่าบวม
- ความร้อน (Heat Therapy): เหมาะกับอาการตึงเรื้อรัง กล้ามเนื้อแข็ง ข้อเข่าฝืดในตอนเช้า หรือมีพังผืด
จุดเด่นของการรักษาที่ P.S. Center
- วินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อย่างละเอียด
ครอบคลุมตั้งแต่ข้อเข่า กล้ามเนื้อรอบข้อสะโพก จนถึงกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (core muscles) รวมถึงวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่อาจส่งผลต่อข้อเข่า เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการคุณ
- วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ไม่ใช่สูตรสำเร็จ
ทุกแผนถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสาเหตุและอาการของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นเอ็นอักเสบ หมอนรองเข่าผิดปกติ หรือกล้ามเนื้อล้าสะสม พร้อมปรับสมดุลโครงสร้างกล้ามเนื้อเพื่อฟื้นฟูข้อเข่าอย่างเต็มประสิทธิภาพ
- เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและปลอดภัย
เครื่องมือระดับสูง เช่น PRP (Platelet-Rich Plasma), RFA (Radiofrequency Ablation), Ultrasound Therapy และ IV Infusion Therapy ที่ช่วยลดอาการอักเสบ คลายกล้ามเนื้อ และบรรเทาอาการปวดได้ตรงจุด ลดความจำเป็นใช้ยาแก้ปวดระยะยาวหรือผ่าตัด
ทีมกายภาพบำบัดเฉพาะทางดูแลอย่างใกล้ชิด
เน้นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าและสะโพก พร้อมปรับสมดุลระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาทอย่างองค์รวม เพื่อให้คุณกลับมาเดิน วิ่ง และเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ พร้อมลดโอกาสบาดเจ็บซ้ำในระยะยาว